วันจันทร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2558

ต่อกันกำมือต่อกำมือ Samsung Galaxy Note 5 vs iPhone 6S vs iPhone 6S Plus จ่ายเงินรุ่นไหนดี ?

เริ่มไปอย่างยิ่งใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะว่า iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus ไอโฟนรุ่นล่าสุดประจำปี 2015 ที่ในปีนี้ มีการอัปเกรดครั้งใหญ่ ทั้งการเพิ่มเทคโนโลยี Force Touch เสริมทัพด้วยฟีเจอร์ 3D Touch รวมไปถึง เพิ่มความละเอียดของเซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า พร้อมกับด้านหลัง เรียกได้ว่า คงถูกอกถูกใจ สาวก iPhone กันไม่น้อยเลยทีเดียว



ส่วนอีกรุ่นที่น่าสนใจไม่พ่ายแพ้กัน นั่นก็คือ Samsung Galaxy Note5 ที่เริ่มก่อนหน้า iPhone 6S ไปแล้ว ตั้งแต่เดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา เพราะว่าจุดเด่นของ Samsung Galaxy Note 5 รุ่นนี้ ก็คือ บอดี้ตัวเครื่องแบบโลหะ พร้อมชูจุดเด่นด้วยหน้าจอความละเอียดระดับ Quad HD รวมไปถึงกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล และอาวุธคู่ใจที่ขาดไม่ได้ นั่นก็คือ ปากกา S Pen Stylus ที่ช่วยทำให้การใช้งานบนหน้าจอใหญ่ สะดวกขึ้นกว่าเดิม

มาดูกันว่า ถ้าแม้เราเปรียบเทียบสเปค ระหว่าง iPhone 6S vs iPhone 6S Plus vs Samsung Galaxy Note 5 ทั้ง 3 รุ่นนี้ จะโดดเด่นพร้อมทั้งแตกต่างอย่างไรบ้าง



ดีไซน์พร้อมทั้งการออกแบบ

มาเริ่มทำกันที่การออกแบบของทั้ง 3 รุ่นกันก่อน เพราะทั้ง iPhone 6S, iPhone 6S Plus พร้อมกับ Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับบอดี้แบบโลหะเหมือนกันทั้ง 3 รุ่น พร้อมด้วยเป็นอะลูมิเนียมเกรด 7000 เหมือนกันอีกด้วย แน่นอนว่า ในเรื่องของความแข็งแกร่ง, ทนทาน ด้วยกันพรีเมียม ทั้ง 3 รุ่นนี้ สูสีกันแบบเห็นๆ

ส่วนขนาดตัวเครื่อง ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note 5 จะมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลขนาดใหญ่กว่าถึง 5.7 นิ้ว แต่กลับมีน้ำหนักตัวเครื่อง เบากว่า iPhone 6S Plus ที่มาพร้อมกับหน้าจอขนาด 5.5 นิ้วเสียอีก แต่เรื่องความบางนั้น Samsung Galaxy Note5 หนากว่าเล็กน้อย

หน้าจอแสดงผล



เพราะว่า Samsung Galaxy Note5 นอกจากจักมาพร้อมกับหน้าจอใหญ่ถึง 5.7 นิ้วแล้ว ยังมาพร้อมกับความละเอียดระดับ QHD 2560 x 1440 พิกเซล อีกด้วย ในขณะที่ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับหน้าจอความละเอียดระดับ Full HD 1080p เท่านั้น ทั้งๆ ที่ มือถือเรือธง ส่วนใหญ่ เปิดม่านใช้หน้าจอความละเอียดระดับ QHD กันหมดแล้ว ซึ่งในส่วนของการแสดงผล ถือว่า Samsung Galaxy Note 5 ค่อนข้างเหนือกว่า

อย่างไรก็ดี ถึงแม้ว่า Samsung Galaxy Note 5 จะได้เปรียบในเรื่องของหน้าจอใหญ่ แต่ในเรื่องของการพกพา คงไม่ยอมไม่ได้ว่า มือถือหน้าจอเล็ก พกพาได้สะดวกมากกว่า แต่ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับความชอบด้วยครับ

หน่วยประมวลผล



iPhone 6S พร้อมทั้ง iPhone 6S Plus มาพร้อมกับชิปเซ็ต Apple A9 และ M9 ซึ่งยังไม่มีข้อมูลระบุอย่างแน่ชัดว่า ชิปเซ็ตรุ่นนี้ เป็นแบบ Dual-Core ไม่ใช่หรือ Quad-Core Processor กันแน่ รวมไปถึงข้อมูลในเรื่องของ หน่วยความจำ RAM ที่มีข่าวโจษจันว่า อาจจักมาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 2 GB ซึ่งคงต้องรอการพิสูจน์จากทาง iFixit อีกทีหนึ่ง

ส่วน Samsung Galaxy Note 5 จัดเต็มด้วย หน่วยประมวลผลแบบ Octa-Core Processor (Exynos 7420 chipset) ความเร็ว 2.1 GHz และหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB เรียกได้ว่า เร็วและแรงไม่พ่ายรุ่นใด แต่จะแรงกว่า iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus หรือไม่ คงต้องรอ Benchmark พิสูจน์กันหลังจากนั้น

กล้องถ่ายรูป



เรียกได้ว่า ในปีนี้ แอปเปิล ได้ยืดอกอย่างเต็มภาคภูมิแล้ว เพราะว่า iPhone 6S และ iPhone 6S Plus มาพร้อมกับกล้องด้านหน้า ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล ทัดเทียมกับ มือถือเรือธง รุ่นอื่นๆ แต่ล้ำหน้ากว่าด้วยไฟแฟลชแบบ Retina Flash ซึ่งจุดเด่นนี้ น่าจะช่วยดึงให้คนกลับมาใช้ iPhone ได้ไม่ยาก รวมไปถึงกล้องด้านหลัง ที่ปรับความละเอียดเป็น 12 ล้านพิกเซลแล้ว อีกทั้ง ยังรองรับการถ่ายคลิปวีดีโอความละเอียดสูงสุดถึง 4K อีกด้วย

นอกเหนือจากไฟแฟลชแบบ Retina Flash พร้อมด้วยปรับความละเอียดของกล้องถ่ายรูปทั้งด้านหน้า และด้านหลังแล้ว ยังได้เพิ่มโหมดการถ่ายรูปแบบ Live Photos ที่เปลี่ยนภาพนิ่งธรรมดาๆ ให้เคลื่อนไหวได้ สร้างลูกเล่นให้กับการถ่ายภาพได้อีกส่วนหนึ่ง



ส่วน Samsung Galaxy Note 5 ก็ไม่น้อยหน้า จัดเต็มทั้งกล้องด้านหน้าพร้อมกับด้านหลังเช่นกัน เพราะกล้องด้านหน้า มาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้องด้านหลัง ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ทั้งกล้องด้านหน้า ด้วยกันด้านหลัง เรียกได้ว่า หมดปัญต่างว่าารถ่ายรูปในที่แสงน้อยไปเลย เพราะว่ารับประกันความคมชัดพร้อมด้วยสว่างสดใสแน่นอน รวมไปถึงลูกเล่นด้านการถ่ายภาพ Samsung Galaxy Note 5 มีมากกว่า iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus เสียอีก

การเชื่อมต่อ

ทั้ง iPhone 6S, iPhone 6S Plus และ Samsung Galaxy Note 5 ต่างรองรับ Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac, Bluetooth 4.2, NFC, GPS + A-GPS + GLONASS เหมือนกัน ส่วนด้านการเชื่อมต่อทะลวงสายเคเบิล Samsung Galaxy Note 5 ใช้พอร์ต microUSB 2.0 ในขณะที่ iPhone 6S พร้อมทั้ง iPhone 6S Plus ใช้พอร์ต Lightning ซึ่งถ้าพูดถึงความสะดวกในการใช้ยามฉุกเฉิน ต้องบ่งบอกว่า พอร์ตแบบ microUSB 2.0 สะดวกมากกว่า ด้วยเหตุว่ามือถือหลายรุ่นต่างก็ใช้พอร์ตแบบนี้ ในขณะที่พอร์ตแบบ Lightning จักต้องเป็นผู้ใช้ iPhone 5 ขึ้นไปเท่านั้น จึงจักมีสายชาร์จแบบนี้

เซ็นเซอร์ต่างๆ

ทั้ง 3 รุ่น ต่างมาพร้อมกับเซ็นเซอร์พื้นฐานอย่าง Accelerometer Sensor, Gyro Sensor และ Proximity Sensor อยู่แล้ว รวมไปถึงเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือ บนปุ่ม Home อีกด้วย แต่สิ่งที่ Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า ก็คือ มีเซ็นเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่ด้านหลังตัวเครื่องอีกด้วย ในขณะที่ผู้ใช้ iPhone จะต้องวัดลอด Apple Watch แทน

iPhone 6S, iPhone 6S Plus กับ Samsung Galaxy Note 5 รุ่นไหน คุ้มค่ามากกว่ากัน?



คำถามนี้ คงเป็นเรื่องที่ตอบได้ยากสักหน่อย เนื่องมาจากทั้ง 3 รุ่นก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป ด้าน iPhone 6S กับ iPhone 6S Plus สเปคไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ เชื่อได้ว่า สาวกคงจะปลงใจเร่ำลือกเองได้ไม่ยาก เพราะเฉพาะผู้ที่ยังใช้ iPhone รุ่นเก่าอยู่ อย่าง iPhone 4S, iPhone 5 ไม่ใช่หรือ iPhone 5S น่าจักได้เวลาเปลี่ยนมาใช้กันแล้ว ไม่ก็ผู้ที่ใช้ iPhone 6 กับ iPhone 6 Plus อยู่ก่อนแล้ว ก็มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนด้วยเช่นกัน ด้วยเหตุว่าปรารถนาลองของใหม่อย่าง Force Touch พร้อมทั้ง 3D Touch

เหตุด้วยจุดเด่นในแต่ละด้านระหว่าง iPhone6S / iPhone 6S Plus กับ Samsung Galaxy Note 5 หมู่งานขอสรุปไว้เป็นข้อๆ ดังนี้

1. ด้านการแสดงผล

สมมตวัดกันที่การแสดงผล คงจะตัดสินได้ไม่ยากว่า Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่าในด้านนี้ ด้วยเหตุที่มาพร้อมกับหน้าจอแสดงผล ที่มีความละเอียดสูงถึงระดับ QHD ในขณะที่ iPhone 6S Plus ความละเอียดหน้าจออยู่ที่ระดับ Full HD เท่านั้น ซึ่งมือถือเรือธงส่วนใหญ่ จะมาพร้อมกับหน้าจอระดับ QHD กันหมดแล้ว

2. กล้องถ่ายรูป

Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่าในเรื่องของกล้องด้านหลัง ที่มาพร้อมกับความละเอียดถึง 16 ล้านพิกเซล พร้อมรูรับแสงกว้างสูงสุด F/1.9 ตอบสนองต่อการใช้งานในที่แสงน้อยได้ดี อีกทั้งยังมีลูกเล่นและโหมดการ ถ่ายภาพยังมีให้เโจษกใช้มากกว่า ส่วน iPhone 6S / iPhone 6S Plus เหนือกว่าในเรื่องของกล้องด้านหน้า ที่ถึงแม้จะมาพร้อมกับความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เหมือนกับ Samsung Galaxy Note 5 แต่มีไฟแฟลชแบบ Retina Flash ในตัว ฉะนั้น ถ้าถ้าใช้งานด้าน Selfie ถือว่า iPhone 6S / iPhone 6S Plus ดีกว่า



3. การประมวลผล

ถ้าต่างว่ามองในเรื่องฮาร์ดแวร์ ณ ชั่วโมงนี้ ต้องตรัสว่า Samsung Galaxy Note 5 เหนือกว่า ด้วยเหตุว่ามาพร้อมกับหน่วยความจำ RAM ขนาด 4 GB ด้วยกันซีพียูแบบ Octa-Core Processor แต่ก็ยังสรุปไม่ได้ว่า จักประมวลผลได้เร็วกว่า iPhone 6S / iPhone 6S Plus เพราะต้องรอผลการทดลอง Benchmark มายืนยันอีกครั้ง เนื่องจากว่าทั้ง 2 รุ่น ใช้ระบบปฏิบัติการที่ต่างกันนั่นเอง

4. เทคโนโลยีใหม่ๆ

iPhone 6S / iPhone 6S Plus ถือว่า เป็นรุ่นที่มีการอัปเกรดมากกว่า iPhone รุ่นอื่นๆ ก็เพราะว่านอกจากจักอัปเกรดทั้งชิปเซ็ต กับกล้องถ่ายรูปแล้ว ยังได้เพิ่มเทคโนโลยีน้องใหม่แกะกล่องอย่าง Force Touch ด้วยกัน 3D Touch เพิ่มเข้ามา แต่ก็ต้องมองกันหลังจากนั้นยาวๆ ว่า เทคโนโลยีดังกล่าว จะมีความจำเป็นต่อการใช้งานมากแค่ไหน เช่นเดียวกับกาลเวลาที่ Apple เปิดตัว Touch ID ที่หลายๆ คนมองว่า เป็นฟีเจอร์ที่ไม่จำเป็น แต่ ณ ปัจจุบัน Touch ID หรือการสแกนลายนิ้วมือ เป็นสิ่งจำเป็นต่อการใช้งานสมาร์ทโฟนไปเสียแล้ว

ส่วน Samsung Galaxy Note 5 มาพร้อมกับเทคโนโลยี UHQ Upscaler ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเสียงของทั้ง เพลง และวีดีโอ ให้มีรายละเอียดดีขึ้น พร้อมด้วยคมชัดขึ้น ซึ่งทางกลุ่มงาน techmoblog ก็ได้ทำการพิสูจน์ในบทความรีวิวไปแล้วว่า เสียงคมชัดขึ้นกว่า Samsung Galaxy Note 4 แท้จริง แต่เพราะข้อนี้ คงต้องยกให้ iPhone 6S / iPhone 6S Plus เหนือกว่า ตามที่เทคโนโลยี Force Touch และ 3D Touch ยังไม่เคยมี สมาร์ทโฟน รุ่นใดมีมาก่อนนั่นเอง

5. ค่า

ปิดท้ายด้วยด้านราคากันบ้าง Samsung Galaxy Note 5 เคาะมูลค่ามาแล้ว อยู่ที่ 25,900 บาท ส่วน iPhone 6S พร้อมด้วย iPhone 6S Plus คงต้องลุ้นกันหลังจากนั้นว่า จักเคาะสนนราคาเริ่มมาสูงไม่ก็ต่ำกว่านี้

ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

วันพุธที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2558

รวมสิ่งที่คาดว่าคุณจักพบใน iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ที่กำลังจักเปิดตัว

เพราะด้วยบทความนี้อาจจักเอาใจคนที่สนใจไอโฟนแบบใหม่ทั้งหลาย ซึ่งเราจักรวบรวมสิ่งที่ใหม่นัก ๆ ใน iPhone 6s ที่ตื่นเต้น กับน่าใช้กันสุดยอดบ้าง หมายเหตุ!! สิ่งเหล่านี้เป็นการอ้างอิงจากแหล่งข้อมูลและนำมาเขียนวิเคราะห์กับใส่ความเห็นของผู้เขียนลงไป ยังไม่ใช่กันฟันธง 100% ฉะนั้น อ่านแล้วคิดพิจารณาเองก่อนลงความเห็นนะครับ



1.จอละเอียดขึ้น

ต้องเข้าใจว่า iPhone 6s จักเป็นรุ่นการพัฒนาขึ้นจาก iPhone 6 เดิม ฉะนั้นจักไม่มีการเปลี่ยนแปลงรูปร่างพร้อมทั้งขนาดหน้าจอได้ แต่ความละเอียดที่มากกว่าเดิม เพราะว่า iPhone 6s จักมีความละเอียดที่มากกว่าเดิมอยู่หมาย 30% ฉะนั้น ถ้าเรามองที่จอของ iPhone 6s จะละเอียดขึ้นพร้อมกับแสดงผลภาพสวยงามใช้ได้เลยทีเดียว ถ้าเป็น iPhone 6s Plus ก็จะมากขึ้นไปอีก แต่ยังไม่เท่า Android แบบใหม่ในระดับ 2K นะครับ ความเป็นไปได้ที่ผมให้ 80% ล่ะกัน

2.CPU ใหม่พร้อมทั้งแรงขึ้น

ของใหม่ต้องแรงขึ้นเป็นธรรมดา จากแหล่งข่าวที่พึ่งหลุดมาพูดถึงเรื่องสเปคเครื่องว่าจะมีการใช้ CPU A9 ใหม่ที่มีความแรง 1.8 GHz แรงกว่าเดิมแน่นอน พร้อมด้วยไม่ต้องพูดถึงการทดลอง Benchmark ว่าจักได้เท่าไหร่ เอาเป็นว่ายังไงก็ไหลไปดีขึ้นล่ะกัน แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการกินไฟนี่แหล่ะ แม้ว่าจักใช้สถาปัตยกรรม 14 นาโนเมตรก็ตาม ความเป็นไปได้ ความเป็นได้ที่ผมให้มาเต็มที่ 80% เท่ากับข้างบน

3.RAM มากขึ้น

แน่นอนว่าผมก็เป็นอีกคนที่บ่นว่า RAM ของ iPhone 6 น้อยไปก็เพราะว่าให้มาปาง 1GB เท่านั้น Apple คงฟังเสียงบ่นแล้ว ผลคือไอโฟนใหม่อย่าง iPhone 6s จะเพิ่ม RAM เป็น 2GB นั่นเอง ฉะนั้นการเปิดโปรแกรมค้างไว้บ่อย ใช่ไหมจักเล่นเกมแล้วกลัวลื่นไม่พอ หมดห่วงนะครับ ความเป็นไปได้ผมให้ 77% ล่ะกัน

4.กล้องชัดขึ้น

iPhone รุ่นเดิมเป็นมีกล้องหน้าด้วยกันหลังที่เรียกว่า ล้าภายหลังคู่แข่งมาพอสมควร ฉะนั้นการเพิ่มความละเอียดกล้องนั้นจึงต้องเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน เพราะเพิ่มกล้องหน้าที่ความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมด้วยกล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล และถ่ายวีดีโอได้ระดับ 4K แม้ว่าพิกเซลจักเพิ่ม แต่จะคมชัดหรือไม่ไม่ ต้องรอดูกันต่อจากนั้น ความเป็นไปได้ คาดว่า 70% (เผื่อใจไว้ก่อน)



5. Body แข็งแรงขึ้น

ปัญหาของ iPhone 6 ที่ออกมาและเป็นคนที่ต้องบ่นมากมายคือ เครื่องงอง่าย (อาจจักก็เพราะว่านั่งกดทับมา) ฉะนั้นแล้ว iPhone 6s และ iPhone 6s Plus จะเปลี่ยนวัสดุข้างหลังเป็นอลุมิเนียม เกรด 7,000 ซึ่งเป็นเกรดเดียวกับ Samsung Galaxy Note 5 ที่แข็งแรงกว่าเดิม แต่ตกยังไงก็บุบอยู่ดีขึ้นอยู่กับมุม แน่นอนว่าการเพิ่มเกรดอลุมิเนียม ฉะนั้นความหนาจักเพิ่มขึ้น ตามที่เคยนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ แต่ความเห็นผมแล้ว รู้สึกว่ามันไม่ได้เสียหายสกเท่าไหร่ เพราะความหนาของมันจะเพิ่มระดับ 0.x มิลลิเมตร มันไม่ได้แตกต่างกันสักเท่าไหร่ครับ

6.สีชมพู สุดมุ้งมิ้ง

หลุดมาแล้วมากมายเหตุด้วยประเด็นสีชมพู Pink Gold ที่สวยงามมากมาย แต่ด้วยภาพที่หลุดออกมามันก็มีความเป็นไปได้อยู่บ้าง พร้อมด้วยมันก็เอาใจผู้หญิงพอสมควรก็เพราะว่าสีที่มุ้งมิ๊งมากมาย ความเป็นไปได้ผมว่า 90% ล่ะกัน



7.จอ Force Touch

เป็นเทคโนโลยีที่ Apple เหมือนจักตั้งใจให้ออกมาเพราะว่า หน้าจอ Force Touch ซึ่งเป็นจอที่ต้องใช้แรงกดในการสั่งงานที่แตกต่างจากเดิม หรือเรียกได้ว่าจอจะรู้ถึงแรงกดระดับเท่าไหร่ได้เช่นกัน ซึ่งเทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นแล้วกับ Apple Watch พร้อมกับ Huawei Mate S ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ แต่จักใช้งานกับฟังก์ชั่นอะไรนั้น ต้องรอดูถัดจาก ผมว่าต้องใส่มาเลยก็เพราะว่าว่ามันเด็ดพอสมควรเลย ส่วนนี้ความเป็นไปได้สัก 75%

8.iOS 9

เป็นระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นมาออกมาทูลว่าใช้ทรัพยากรที่คุ้มค่า พร้อมกับมีลูกเล่นใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็น Multi Tasking, Keyboard ที่ทำได้ตั้งค่า Shortcut ใช้งานได้ง่ายขึ้น, ด้วยกันอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้มันดูน่าใช้กว่าเดิม แน่นอนว่า มันจักมาใส่กับ iPhone 6s ด้วยกัน iPhone 6s Plus อย่างแน่นอน ความเป็นไปได้ 98%

9.มูลค่าในไทยที่ต่างจากเดิม

ครั้นเมื่อเป็นของใหม่มา ยังไงก็มูลค่าแพงขึ้นเป็นเรื่องปกติ ซึ่งยังไงซะราคาก็คาดว่ามากกว่าเดิมอยู่ดี แต่มากกว่าระดับไหน ต้องรอดูว่าแต่ละผู้ให้บริการนั้นจักตั้งสนนราคาที่เท่าไหร่กันถัดจากนั้น กับโปรโมชั่นคงไม่บอกให้ทราบดีกว่า ความเป็นไปได้ 95%



10.รังสีเปล่งประกายเพราะว่าความสดใหม่ของมัน

ข้อสุดท้ายนี้ ทำไมถึงต้องเป็นรังสีเปล่งประกายเพราะมันใหม่ พร้อมกับสร้างความอิจฉาริษยากับคนที่ใช้รุ่นเดิมได้พอสมควร แต่ถ้าคนที่ไม่ได้เกิดอาการดังกล่าวคงเป็นเพราะ ต้องการรอไอโฟนรุ่นถัดจากนั้น ... ก็เป็นได้ ความเป็นไปได้เอาไปเลย 100% เลย

สุดท้ายนี้ นี่คือความคิดเห็นพร้อมด้วยการคาดคะเนกับความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนเอง แต่อย่างไรก็ดี คงไม่มีสิ่งใดที่หยุดความใหม่ล่าสุดของ iPhone 6s หรือว่า iPhone 6s Plus ใหม่ได้ นอกจาก เงินและความต้องการของคุณเอง แต่ส่วนตัวผู้เขียนนั้น ขอรอดูรุ่นหน้าไปก่อนจนกว่าไอโฟนเดิมจะพังก่อนวัยอันควรก็แล้วกัน ที่เหโจษจันนั้นก็รอดูว่าสิ่งที่เปิดปากนั้นเป็นแน่นอนใช่ไหมไม่ในคืนวันที่ 9 กันยายนนี้

ที่มา: thaizones-hitech ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://hitech.sanook.com/

วันจันทร์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2558

iPhone 6c ไอโฟนรุ่นเล็ก กับบอดี้โลหะที่พรีเมียมกว่าเดิม อาจมีลุ้นเปรยโฉมพร้อมกับ iPhone 6s พร้อมทั้ง 6s Plus

กระแสข่าวลือเลื่องเกี่ยวกับ iPhone 6C ยังคงมีมาอย่างไม่หยุดหย่อน ภายหลังก่อนหน้านี้มีข่าวว่า Apple ได้ยกเลิกไลน์การผลิต iPhone 6c เรียบร้อยแล้ว แต่ล่าสุด @evleaks เจ้าพ่อข่าวลือชื่อดังใน Twitter ก็ได้ออกมาทวิตข้อความว่า iPhone 6C จักกลับมาอีกครั้ง



จากข้อมูลที่เป็นข่าวเลื่องก่อนหน้านี้ iPhone 6c จะมาพร้อมกับ ตัวเครื่องที่ผลิตจากโลหะเพื่อให้ดูเป็นผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมมากกว่า iPhone 5c รุ่นพี่, แบตเตอรี่ที่เพิ่มความจุขึ้นเป็น 1,715 mAh, ชิปเซ็ตที่ผลิตด้วยเทคโนโลยี FinFET พร้อมกับจอแสดงผลขนาด 4 นิ้ว

ซึ่งถ้า Apple ผลิต iPhone 6c นัก ก็คาดว่าน่าจักโหมโรงในช่วงต้นปี 2016 แต่อย่างไรก็ตาม งานโหมโรง iPhone 6s กับ iPhone 6s Plus กำลังจะมีขึ้นในวันที่ 9 กันยายนนี้ (ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการ) ก็ต้องติดตามดูกันถัดว่างานจักมีเรื่องเซอร์ไพรส์ใดๆ เกี่ยวกับ iPhone 6c บ้างไม่ใช่หรือไม่

ที่มา: thaizones-hitech

วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

ประมาณการณ์สนนราคา iPhone 6s ในไทยเริ่มต้น 24,900 บาท

หลังจากมีรายงานเกี่ยวกับราคา iPhone 6s พร้อมทั้ง iPhone 6s Plus จากฝั่งยุโรปที่มีมูลค่าเท่ากับตอนเปิดตัว iPhone 6 พร้อมด้วย iPhone 6 Plus จึงมีความเป็นไปได้ว่ามูลค่า iPhone รุ่นใหม่ในประเทศต่าง ๆ รวมถึงประเทศไทยจะเท่าเดิม



แม้ว่า iPhone รุ่นใหม่หรือไม่ iPhone 6s จักยังไม่เปิดตัว แต่เพื่อมูลค่านั้นคาดว่าเท่าเดิมกับ iPhone ด้วยดีไซน์ต่าง ๆ ซึ่งตามข่าวก่อนหน้านี้ต่างก็ให้ข้อมูลว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก แต่จะมีการปรับสเปคในส่วนของประสิทธิภาพการทำงานกับกล้องถ่ายรูปให้ดีกว่า เดิม



ถ้าหากมูลค่า iPhone 6s มีค่าเท่าเดิม ก็จักมีสนนราคาตั้งต้นต้นอยู่ที่ 24,900 บาทในรุ่นความจุ 16GB ซึ่งเป็นมูลค่าบน Apple Online Store ส่วน iPhone 6 ด้วยกัน iPhone 6 Plus ก็จักปรับราคาลงมาตามลำดับ



ตราบย้อนกลับดูราคา iPhone 6 เทียบกับ iPhone 5s แล้วก็พบว่า iPhone 6 เปิดมูลค่าสูงกว่าเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงใหม่ทั้งหมด ทั้งวัสดุ ดีไซน์ ขนาดตัวเครื่อง พร้อมทั้งสเปค แต่ด้วย iPhone 6s แล้วยังคงใช้ดีไซน์แบบเดิม พร้อมทั้งขนาดก็น่าจะใกล้เคียง iPhone 6 ตามที่มีข่าวออกมาขณะนี้

อย่างไรก็ตาม ราคาดังกล่าวเป็นแทบการคาดการณ์ล่วงหน้าพร้อมทั้งความเป็นไปได้เท่านั้น ส่วนข้อมูลกับราคาอย่างเป็นทางการต้องรอติดตามดูกันจากนั้นครับ

สนับสนุนเนื้อหา: www.iphone-droid.net
ติดตาม ข้อมูลข่าวสารไอทีได้ที่นี่: http://thaizones-hitech.blogspot.com/

ติดตาม ข่าวสารทางด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้ที่: http://hitech.sanook.com/